พล.อ.ฉัตรชัย สาริกัลยะ รองนายกรัฐมนตรี กล่าวภายหลังการเข้าพบของนายมงคล สุขเจริญคณา ประธานสมาคมประมงแห่งประเทศไทยพร้อมคณะว่า ในฐานะที่ทำหน้าที่ติดตามการแก้ปัญหาการทำประมงผิดกฏหมาย จะมีการประชุมครั้งแรกในบ่ายวันนี้ และจะมีการประชุมติดตามการแก้ปัญหาทุกสัปดาห์ โดยสมาคมฯ ได้ฝากข้อห่วงใยและฝากใหัรัฐดูแลเรื่องแรงงาน ซึ่งขณะนี้ขาดแคลนแรงงานเป็นจำนวนมาก โดยจะนำเรื่องนี้หารือกระทรวงแรงงานเพื่อหาแนวทางแก้ไข และพบปัญหาการจ่ายเงินให้ลูกเรือประมงที่ต้องผ่านทางธนาคาร แต่ปัญหาคือตู้เอทีเอ็มไม่เพียงพอ โดยเฉพาะที่ท่าเรือ ดังนั้นจะต้องหารือกับกระทรวงการคลังและสมาคมธนาคารไทย เพื่อแก้ปัญหาต่อไป

     นอกจากนี้ ยังมีข้อเสนอเรื่องการทำประมงชายฝั่ง ซึ่งเป็นตามนโบายเดิมว่าหากจับสัตว์น้ำธรรมชาติในทะเลแล้ว ต้องหันมามองว่าจะเพาะเลี้ยงสัตว์น้ำอย่างไรเพื่อให้เกิดความยั่งยืน และลดปัญหาการทำลายทรัพยากรธรรมชาติด้วย ซึ่งทั้งหมดก็ต้องไปพิจารณาแนวทางว่าจะทำอย่างไรที่จะไม่ทำให้แนวทางการแก้ไขปัญหา IUU เสียหาย ขณะเดียวกันก็ต้องหาแนวทางให้ชาวประมงสามารถประกอบอาชีพได้อย่างยั่งยืน

      ส่วนการรับซื้อเรือประมงนั้น พล.อ.ฉัตรชัย กล่าวว่า เรือประมงที่เป็นปัญหาอยู่ เช่น ไม่มีใบอนุญาต, ทะเบียนขาด และทางรัฐได้ล็อคเรือไว้จำนวนมาก ซึ่งอาจจะต้องออกนอกระบบไป แต่วิธีการนำออกนอกระบบทำได้หลายวิธีการ เช่น การควบรวมเรือประมง

      "การเอาเรือที่มีอยู่แล้ว แล้วต้องออกจากนอกระบบ 2-3 ลำ แล้วเอาเรือที่ถูกต้องมาแลกกัน เอาใบอนุญาตมาควบรวมให้ถูกต้องก็เป็นอีกวิธีหนึ่ง หรือเรือที่จะออกนอกระบบไปเลย เขาอาจจะเอาไปขาย เราก็จะไปดูว่าเขาจะไปขายอย่างไร เพราะเป็นเรือผิดกฎหมาย ถ้าเราเองจะซื้อ เราก็ต้องดูว่าจะซื้อเรือนี้ได้อย่างไร ซึ่งในตอนที่ผมเป็น รมว.เกษตรฯ ก็ได้สั่งการให้ไปดำเนินการ ซึ่งทราบว่ามีเรืออยู่ประมาณกว่า 1,000 ลำที่จะมีการควบรวม และมีที่เจ้าของเรือต้องการขายเองไม่เกิน 900 ลำ ซึ่งต้องดูว่าจะซื้อขายอย่างไรไม่ให้ผิดด้วย" พล.อ.ฉัตรชัย กล่าว

     อินโฟเควสท์