รมว.คมนาคม สั่ง ขสมก.หารืออัยการพิจารณารายละเอียดคำสั่งศาลปกครองกลางสั่งชดใช้ค่าเสียหายเบสท์ริน-ระงับการทำสัญญาจัดซื้อรถเมล์เอ็นจีวี พร้อมเดินหน้ายื่นอุทธรณ์ และรับมอบรถส่วนที่เหลือเพื่อนำรถออกให้บริการประชาชนต่อไป มั่นใจ ขสมก. ทำถูกต้องตามขั้นตอนกฎหมาย

     นายอาคม เติมพิทยาไพสิฐ รมว.คมนาคม เปิดเผยว่า ได้สั่งการให้องค์การขนส่งมวลชนกรุงเทพ (ขสมก.) หารือกับอัยการเพื่อร่วมวิเคราะห์และพิจารณาคำสั่งศาลปกครองกลางมีคำพิพากษาให้องค์การขนส่งมวลชนกรุงเทพ (ขสมก.) ชดใช้ค่าเสียหายให้กับบริษัท เบสท์ริน กรุ๊ป จำกัดและผู้ร้อง วงเงิน 1,159,969,552บาท พร้อมดอกเบี้ย เนื่องจากถูกบอกเลิกสัญญาจัดซื้อจัดจ้างรถยนต์โดยสารปรับอากาศใช้เชื้อเพลิงก๊าซธรรมชาติ (NGV) และบำรุงรักษาจำนวน 489 คัน ไม่ชอบด้วยกฎหมาย และศาลปกครองกลางมีคำสั่งคุ้มครองชั่วคราวระงับการทำสัญญาซื้อรถเมล์เอ็นจีวี กลุ่มร่วมทำงาน SCN-CHO ตามคำฟ้องของ บริษัท สยาม สแตนดาร์ด เอนเนอจี้ จำกัด ซึ่งเป็นหนึ่งในผู้เข้าร่วมประมูล ซึ่งจากการพิจารณาพบว่าคำสั่งของศาลปกครอง และผู้แถลงคดี ยังไม่สอดคล้องกัน

     ทั้งนี้ ขสมก. มีเวลาในการดำเนินการยื่นอุทธรณ์ภายใน 30 วัน เชื่อว่าคงไม่มีปัญหาที่จะยื่นอุทธรณ์ทั้ง2 คดีต่อไป

     นอกจากนี้ เห็นว่า ขสมก.ยังต้องเดินหน้ารับมอบรถที่เหลือจากกลุ่มร่วมทำงาน SCN-CHO ต่อไป แม้ศาลมีคำสั่งคุ้มครองชั่วคราวระงับการทำสัญญาจัดซื้อรถเมล์เอ็นจีวี ทั้งนี้เพื่อนำรถมาวิ่งให้บริการประชาชนต่อไป เพราะหาก ขสมก.ไม่ปฏิบัติตามสัญญา อาจเกิดปัญหาอีกด้านหนึ่

    "ได้สั่งให้ ขสมก.ไปดูความชัดเจนคำสั่งศาล ว่าจะเป็นปัญหาเรื่องการเดินตามสัญญาหรือไม่ แต่เชื่อมั่นว่าขั้นตอนต่างๆ ที่ขสมก. ดำเนินการมาแล้วถูกต้อง"

สำนักข่าวอีไฟแนนซ์ไทย

ขสมก.เตรียมยื่นอุทธรณ์คำสั่งศาลปกครองระงับจัดซื้อรถเมล์เอ็นจีวี-ชดใช้ค่าเสียหายให้เบสท์ริน ยันมีข้อมูลโต้แย้ง

      ขสมก.เตรียมยื่นอุทธรณ์คำสั่งศาลปกครองให้ระงับมติมติอนุมัติการจัดซื้อรถเมล์เอ็นจีวีจากกลุ่มร่วมทำงาน SCN-CHO ยืนยันเดินหน้ารับรถเมล์ที่เหลือตามสัญญาต่อไป พร้อมยื่นอุทธรณ์คำสั่งชดใช้ค่าเสียหายให้เบสท์รินกว่า 1.16 พันล้านบาท มั่นใจมีข้อมูลโต้แย้งในชั้นศาล

     ผู้สื่อข่าวรายงานว่า วานนี้ (10 เม.ย.) ศาลปกครองกลางมีคำสั่งให้ทุเลาการบังคับใช้มติคณะกรรมการบริหารกิจการ ของ องค์การขนส่งมวลชนกรุงเทพ (ขสมก.) ในการอนุมัติผลประมูลโครงการจัดหารถโดยสารประจำทางที่ใช้เชื้อเพลิงก๊าซธรรมชาติ (รถเมล์เอ็นจีวี) พร้อมซ่อมแซมและบำรุงรักษาจำนวน 489 คัน วงเงิน 4,261 ล้านบาทของกลุ่มร่วมทำงาน SCN-CHO และมติคณะกรรมการ ที่รับรองรายงานการประชุมครั้งก่อนหน้า ตามคำร้องของบริษัท สแตนดาร์ด เอนเนอจี้ จำกัด โดยศาลปกครองกลางมิให้นำมติคณะกรรมการทั้ง 2 ครั้งไปดำเนินการใด ๆ ที่มีผลผูกพันเป็นการชั่วคราว จนกว่าศาลจะมีคำพิพากษาหรือคำสั่งเป็นอย่างอื่น

     นอกจากนี้ ศาลปกครองกลางมีคำพิพากษาให้ ขสมก. ชดใช้ค่าเสียหายเป็นเงิน 1,159,969,552.50 บาท พร้อมดอกเบี้ยอัตรา 7.5% ต่อปี แก่บริษัท เบสท์ริน กรุ๊ป จำกัด กับพวกรวม 4 ราย ภายใน 60 วัน เนื่องจาก ขสมก. เป็นฝ่ายผิดสัญญาซื้อขายและจ้างซ่อมแซมบำรุงรักษารถเมล์เอ็นจีวีตามสัญญาวันที่ 30 ก.ย. 2559

     ทั้งนี้ มีรายงานข่าวจาก ขสมก. ที่เตรียมยื่นอุทธรณ์คำสั่งคุ้มครองและจะเดินหน้ารับรถเมล์เอ็นจีวีที่เหลืออีก 389 คันจากกลุ่มร่วมทำงาน SCN-CHO ต่อไป

    นอกจากนี้ จะยื่นอุทธรณ์ในคำสั่งที่ให้ ขสมก.ชดใช้ค่าเสียหายให้เบสท์ริน เนื่องจาก ขสมก. มีข้อมูลที่นำไปโต้แย้งในชั้นศาลปกครองสูงสุดได้ เช่น ศาลปกครองกลางเห็นว่า ขสมก. ไม่ได้กำหนดเรื่องแหล่งกำเนิดรถไว้ในเงื่อนไขการประมูล (TOR) แต่ในข้อเสนอของเบสท์รินระบุว่าจะผลิตรถในประเทศจีนและจะประกอบตัวรถในประเทศมาเลเซีย

     "เรื่องนี้ไม่ใช่ประเด็นน่าหนักใจ เพราะที่ผ่านมา ขสมก. มีกาตต่อสู้ตามขั้นตอน เช่น กรณีศาลมีคำสั่งคุ้มครองให้ ขสมก. รับมอบรถเมล์จากเบสท์ริน แต่ ขสมก. ก็ยื่นอุทธรณ์และศาลปกครองสูงสุดก็รับพิจารณา รวมถึงกรณีที่ศาลมีคำสั่งไม่ให้ยึดเงินค้ำประกันจากเบสท์ริน ซึ่ง ขสมก. ก็ยื่นอุทธรณ์และศาลก็กลับคำพิพากษาให้ยึดเงินค้ำประกันได้"

    อย่างไรก็ตาม คณะกรรมการในชุดที่อนุมัติการจัดซื้อรถเมล์เอ็นจีวี ล่าสุดได้ทยอยลาออกจากตำแหน่ง ตั้งแต่นายณัฐชาติ จารุจินดา อดีตประธานบอร์ด พลเอกวราห์ บุญญะสิทธิ์, นายสมศักดิ์ ห่มม่วง รองปลัดกระทรวงคมนาคม, รองศาสตราจารย์ธำรงรัตน์ มุ่งเจริญ และนายชัยชนะ มิตรพันธ์

สำนักข่าวอีไฟแนนซ์ไทย