AVA Advisor เปิดตัวแอพพลิเคชั่นเอาใจนักลงทุน ตอบโจทย์การลงทุนในโลกที่กำลังเปลี่ยนแปลง พร้อมรับมือภาวะตลาดฯ ที่ผันผวน นำโรบอตเข้ามาช่วยวิเคราะห์ข้อมูล ประหยัดเวลาเฝ้าหน้าจอ เพิ่มทางเลือกการตัดสินใจแก่ผู้ใช้ บ่งชี้เทรนการลงทุนที่กำลังเปลี่ยนไปอย่างมีนัยสำคัญ

    นายนิรันดร์ ประวิทย์ธนา ประธานเจ้าหน้าที่บริหารและผู้ก่อตั้ง บริษัท AVA Advisory ผู้ประกอบธุรกิจให้บริการระบบหุ่นยนต์แนะนำการลงทุนในตลาดหลักทรัพย์ได้เปิดเผยถึงแนวโน้มการลงทุนที่เปลี่ยนไป เนื่องจากอุตสาหกรรมหรือธุรกิจเกิดใหม่ ที่ได้เข้ามาแทรกแซงธุรกิจที่มีอยู่เดิม บริษัทฯ จึงได้มีการพัฒนาแอพพลิเคชั่น AVA Advisor ซึ่งเปรียบเสมือนเครื่องมือในการช่วยตัดสินใจลงทุน สามารถแจ้งเตือนเมื่อเห็นถึงสัญญาณผิดปกติ ตามแต่ที่ผู้ใช้ได้มีการตั้งค่าไว้ อำนวยความสะดวกแก่ผู้ใช้ ช่วยลดเวลาในการเฝ้าหน้าจอ อีกทั้งสามารถแสดงข้อมูลที่ประมวลผลแล้ว ประกอบการเลือกตัดสินใจลงทุน

     “ในอดีตวิกฤตการณ์ต้มยำกุ้งของประเทศไทยที่เกิดจากการเข้ามาลงทุนจากต่างประเทศตามพื้นฐานค่าแรงไทยที่ค่อนข้างต่ำ เป็นสาเหตุให้เศรษฐกิจในประเทศไทยมีการเติบโตอย่างรวดเร็ว แต่ ณ ปัจจุบันนี้ด้วยเทคโนโลยีที่มีการพัฒนาอย่างรวดเร็ว อีกทั้งมีการนำหุ่นยนต์เข้ามาใช้แทนแรงงานมากขึ้น ส่งผลให้แนวโน้มอุตสาหกรรมมีการเปลี่ยนแปลง ไม่ว่าจะเป็นทั้งการเกษตรหรือการทำกสิกรรม แนวโน้มการลงทุนก็เช่นกัน ในปัจจุบันที่ตลาดหุ้นสามารถคาดการณ์ได้ยากขึ้น การดูงบการเงินที่เป็นข้อมูลในอดีต ไม่สามารถสะท้อนอนาคตของธุรกิจได้ นักลงทุนไทยกว่า 9 แสนรายใช้เวลาดูหน้าจอรวมกันมากกว่า 10 ล้านชั่วโมงต่อเดือนและ 80% จากกลุ่มคนเหล่านี้ขาดทุนจากการลงทุนที่ผ่านมา ดังนั้น นักลงทุนจึงจำเป็นต้องมีคู่มือในการช่วยลงทุนนั่นเอง” นายนิรันดร์กล่าว

      ขณะที่ภาวะตลาดหุ้นในปัจจุบัน ดัชนีมีการปรับตัวลดลงอย่างรุนแรง “นายวัชระ แก้วสว่าง” หรือ “เสี่ยป๋อง” เซียนหุ้นสายเทคนิคกล่าวถึงปัจจัยในการเล่นหุ้นที่ดี ประกอบด้วย 2 อย่าง ได้แก่ ปัจจัยพื้นฐาน เพื่อเฟ้นหาหุ้นที่มีพื้นฐานดีและปัจจัยทางเทคนิคเพื่อหาช่วงเวลาที่เหมาะสมในการเข้าซื้อหรือขาย “ตลาดหุ้นปัจจุบันนี้เล่นยาก ธุรกิจมีการเปลี่ยนแปลงมีธุรกิจใหม่ ๆ เกิดขึ้นตลอดเวลา ธุรกิจแบบดั้งเดิมก็ต้องปรับตัว ต้องดูปัจจัยทางพื้นฐาน เลือกหุ้นที่มีอนาคตดีแล้วหาจังหวะเหมาะสมซื้อ เพื่อสร้างโอกาสในการทำกำไร”

      อนึ่ง นายพีรนาถ โชควัฒนา เซียนหุ้นสาย VI (Value investment) กล่าวถึงกลยุทธ์ในการลงทุน ต้องเลือกหุ้นที่ดีและถือลงทุนระยะยาว ต้องรู้จักธุรกิจที่จะเข้าไปลงทุน ต้องดูว่าเจ้าของกิจการเป็นอย่างไร “ในทุก ๆ วิกฤติการณ์ล้วนมีโอกาสอยู่ถ้าไม่สามารถทำกำไรได้ก็เป็นโอกาสในการเรียนรู้ ได้กลับมาพิจารณาสิ่งที่เราไม่รู้ สิ่งที่เราทำผิดพลาดไปเพื่อจะได้ไม่ทำผิดพลาดอีก หุ้นลงครั้งนี้ตนก็มองว่าเป็นโอกาสที่ดีที่จะได้ซื้อของถูกต้องหาจังหวะที่เหมาะสมในการเข้าซื้อ”

     นอกจากนี้ นายทิวา ชินธาดาพงศ์ เซียนหุ้นสาย VI ได้ให้ความคิดเห็นถึงแนวโน้มว่า “ช่วงนี้ตลาดเปลี่ยนไปเล่นได้ยากขึ้น นักลงทุนจำต้องมีการปรับตัว อนาคตการเปลี่ยนแปลงของประเทศจะพัฒนาไปสู่ธุรกิจการให้บริการ นักท่องเที่ยวมีจำนวนเพิ่มขึ้นมาก ควรมีการพัฒนาอุตสาหกรรมการท่องเที่ยว เพื่อรองรับกลุ่มผู้เกษียณอายุที่จะเพิ่มมากขึ้นในอนาคต

      โดยแพลตฟอร์มของ AVA Advisor ที่ได้มีการเปิดตัวการใช้งานใหม่ ฉีกรูปแบบการอ่านงบการเงินแบบเดิม ๆ โดยแอพพลิเคชั่นนี้จะทำการรวมสถานะและแนวโน้มของบริษัทฯ ที่ผู้ใช้สนใจลงรวมเป็นหน้าเดียว ง่ายต่อการอ่านและทำความเข้าใจ พร้อมสรุปและแสดงผลในรูปแบบกราฟออกเป็น 3 หมวด แสดงถึงแง่มุมใหม่ ๆ ของงบการเงินในมุมมองที่คุณอาจไม่เคยเห็นมาก่อน แถมผู้ใช้ยังสามารถตั้งค่าตัวบ่งชี้ หรือตัวแปรต่าง ๆ ในการเตือน เพื่อให้เหมาะกับรูปแบบการเทรดของตัวเองมากที่สุด และมั่นใจได้ว่านักลงทุนทุกท่านจะไม่พลาดข่าวสารต่าง ๆ ที่แพลตฟอร์มจะมีการอัพเดตความเคลื่อนไหวให้ผู้ใช้ทราบตลอดเวลา                        

       ปัจจุบัน บริษัท AVA Advisory ได้ให้บริการระบบหุ่นยนต์ผู้ช่วยแนะนำการลงทุน โดยมีลูกค้าสถาบัน ได้แก่ บริษัทหลักทรัพย์กว่า 10 แห่ง และบริการแอพพลิเคชั่นหุ่นยนต์ ให้คำแนะนำการลงทุนแก่นักลงทุนรายย่อยกว่า 1.2 แสนราย โดยมีการเพิ่มเครื่องมือในการใช้งานใหม่อย่างต่อเนื่อง ทั้งนี้ บริษัทฯ อยู่ระหว่างพัฒนาระบบ AVA Alpha หุ่นยนต์ที่สามารถคิดวิเคราะห์และส่งคำสั่งซื้อขายแทนมนุษย์เพื่อใช้ในการบริหารจัดการกองทุนส่วนบุคคลสำหรับนักลงทุนในกลุ่ม High Net Worth และได้มีการเปิดโรงเรียน "AVA Investment School" ส่งเสริมให้ลงทุนอย่างมีประสิทธิภาพมุ่งเน้นการให้ความรู้เกี่ยวกับการลงทุนและการใช้เครื่องมือจาก AVA Advisor ซึ่งเปรียบเสมือนผู้ช่วยอัจฉริยะ ที่จะสามารถค้นหาหุ้นภายใต้เงื่อนไขที่ต้องการ และสามารถตั้งการแจ้งเตือนเมื่อเกิดการเปลี่ยนแปลงและอีกมากมายวัตถุประสงค์ เพื่อส่งเสริมให้นักลงทุนได้มีเครื่องมือที่มีประสิทธิภาพไว้ใช้งาน

      สำหรับ ท่านใดที่สนใจแพลตฟอร์มและแอพพลิเคชั่น AVA Advisor สามารถทดลองดาวน์โหลดเพื่อใช้งานได้ที่ app store หรือ google play

ข้อมูลถึงบรรณาธิการ                                    

AVA Advisor (http://AVA.fund)

        AVA Advisory ก่อตั้งจาก Market Anyware Company Limited โดยนายนิรันดร์ ประวิทย์ธนา เมื่อปี 2556 ซึ่งถือว่าเป็นบริษัทฯ ที่พัฒนา application ครบวงจรสำหรับนักลงทุนในประเทศไทยเพื่อใช้เป็นเครื่องมือในการติดตามหุ้นหรือหลักทรัพย์ เปรียบเสมือนผู้ช่วยส่วนบุคคลเพื่ออำนวยความสะดวกแก่นักลงทุนโดยไม่ต้องคอยเฝ้าหน้าจอตลอดเวลาภายใต้ชื่อที่รู้จักกันว่า “Market Anyware”

        ในปี 2559 นายนิรันดร์ ประวิทย์ธนา (CEO) ได้ร่วมมือกับ นายรวิทัต ภู่หลำ (CTO) และนายชัยวุฒิ โกวิทจินดาชัย (กรรมการบริษัท) ทำการวิจัยและพัฒนาปัญญาประดิษฐ์ (Artificial Intelligence: AI) โดยคุณนิรันดร์มีแนวคิดที่จะพัฒนาและเปลี่ยนจาก “Market Anyware” ที่เป็นเครื่องมือสู่ “Platform” ที่สามารถทำงานได้อย่างอัตโนมัติ หรือที่เรียกในปัจจุบันว่า “AVA” นั่นเอง

         ทั้งนี้ AVA เปรียบเสมือนหุ่นยนต์ที่ถูกพัฒนามาเพื่อทำหน้าที่ช่วยให้ความรู้แก่นักลงทุน โดยระบบ AI ของ AVA สามารถจำแนกได้ 2 รูปแบบ ได้แก่

         1. Expert System นั่นคือการให้AVA เรียนรู้จากองค์ความรู้ของนักลงทุนมากความสามารถทั่วโลก

         2. Machine Learning System คือการให้ AVA เรียนรู้จากข้อมูลในอดีตทั้งหมด และสร้างเป็นองค์ประกอบความรู้ใหม่ อาจจะเป็นการลงทุนสไตล์ VI ที่ไม่เหมือนใคร หรือเป็นการลงทุนเชิง Technique โดยใช้ indicator ใหม่ที่ไม่เคยมีใครให้คำนิยามมาก่อน ซึ่งกระบวนการนี้เองที่เรียกว่า “Knowledge Discovery”

         นอกจากนี้ AVA ยังมีความสามารถที่เรียกว่า Deep Learning ในการทำ Knowledge Discovery ซึ่งจะทำให้ได้แนวคิดที่ทันสมัยอยู่เสมอ เพราะกระบวนการนี้จะคอยค้นหาองค์ความรู้ใหม่ภายใต้องค์ประกอบใหม่ตลอดเวลา

             ปัจจุบัน (2018) AVA Advisory มีผลิตภัณฑ์ที่ให้บริการทั้งหมด 2 ประเภท ได้แก่

         1. AVA Advisor มีหน้าที่คอยช่วยเหลือนักลงทุนไม่ว่าจะเป็นการเทรดแบบใช้เทคนิคประกอบ (Technical) การเทรดแบบเก็งกำไรระยะสั้น (Day Trade) หรือการเทรดแบบลงทุนระยะยาว (Value Investor) จึงเหมาะสำหรับ Active Investor ที่อยากลงทุนด้วยตัวเอง แต่ยังคงต้องการคำแนะนำจากผู้ที่มีความสามารถในการวิเคราะห์ซึ่งได้มีการเปิดใช้งานครั้งแรกเมื่อเมษายน 2559 ที่ผ่านมา

        2. AVA Fund เหมาะสำหรับนักลงทุนที่ต้องการผลกำไรจากการลงทุนแต่ไม่สามารถลงทุนด้วยตัวเองได้โดยนักลงทุนจำเป็นต้องนำเงินไปฝากที่ AVA จากนั้นระบบ AI จะทำการคัดเลือกหลักทรัพย์ที่น่าสนใจในกองทุนนั้นมานำเสนอซึ่งผลิตภัณฑ์นี้มีความสมบูรณ์ทั้งทางด้านระบบและเทคโนโลยีที่รองรับ แต่จะสามารถเปิดให้บริการได้ต่อเมื่อเป็นไปตามการอนุญาตของหน่วยงานที่กำกับดูแลเท่านั้น