หมวดหมู่: บริษัทจดทะเบียน

1aaa1ATHCOM


THCOM พร้อมร่วมทุนต่างชาติสานต่อธุรกิจดาวเทียมต่อยอดธุรกิจ ประเมินรายได้ปี 61 ลด แต่มั่นใจ EBITDA Margin เพิ่มขึ้น

         ไทยคมรอความชัดเจนสิ้นสุดสัมปทานดาวเทียมไทยคม 4,5,6 ในปี 2564 นี้ ย้ำบริษัทสนใจมีส่วนร่วมในกระบวนการที่ภาครัฐกำหนด เผยปัจจุบันกำลังอยู่ในขั้นตอนเจรจากับพันธมิตรต่างชาติ ด้วยต้นทุนที่ต่ำกว่าในประเทศ แต่ยังไม่สามารถเปิดเผยถึงรายละเอียดได้ นอกจากนี้ยังมองหาโอกาสและศึกษาการขยายธุรกิจใหม่ ๆ อาทิ การทำ VDO Analytics, Robotic และ Drone ที่ปัจจุบันทั่วโลกเริ่มมีการใช้งานมากขึ้น และพื้นฐานของบริษัทสามารถต่อยอดออกไปได้

      นางสาวนาลิวัน ชินะผา ผู้ช่วยผู้อำนวยการสำนักการลงทุนสัมพันธ์ บมจ.ไทยคม (THCOM) กล่าวว่า บริษัทคาดว่ารายได้ในปี 2561 จะลดลงจากปีที่แล้ว โดยครึ่งปีแรกที่ผ่านมารายได้ลดลง 17.2% แต่คาดว่าอัตรากำไรก่อนดอกเบี้ย ,ภาษี ,ค่าเสื่อมและค่าตัดจำหน่าย (EBITDA Margin) จะดีขึ้นประมาณ 40-45% เนื่องจากว่าบริษัทมีปรับปรุงการบริหารจัดการต้นทุนได้มากกว่าเดิม

       อย่างไรก็ตาม บริษัทอยู่ระหว่างรอความชัดเจนในข้อกฎหมายหลังหมดสัมปทานดาวเทียมไทยคม 4,5,6 ในปี 2564 โดยบริษัทมีความประสงค์ในกระบวนการที่ภาครัฐกำหนด และปัจจุบันบริษัทได้มีการหาพันธมิตรร่วมทุนทำดาวเทียมขนาดใหญ่ในต่างประเทศ ซึ่งมองว่าสามารถลดต้นทุนให้ต่ำลงได้ แต่ในรายละเอียดยังไม่สามารถเปิดเผยได้

      "บริษัทอยู่ระหว่างการพัฒนาธุรกิจเสริมซึ่งเป็นธุรกิจที่ใกล้เคียงกับธุรกิจหลัก อาทิ Maritime, LOOX TV,4K (Ultra HD) และ Direct-to-Home โดยธุรกิจ Maritime หรือธุรกิจการให้บริการระบบสื่อสารบนเรือ (Nava service) ปัจจุบันมีการให้บริการกับเรือหลายประเภท เช่น เรือสำรวจปิโตเลียม เรือขนส่ง เรือเฟอรี่ ในประเทศไทย ญี่ปุ่น และออสเตรเลีย ซึ่งเป็นธุรกิจที่มีมาร์จิ้นค่อนข้างดีและไม่มีคู่แข่ง ปัจจุบันมีสัดส่วนรายได้ไม่เกิน 5% จากการให้บริการในปีนี้ 80-90 ลำ ทั้งนี้ในปี 62 บริษัทมีแผนการขยายฐานลูกค้าไปสู่เรือประมงมากขึ้นซึ่งมีตลาดค่อนข้างใหญ่

      ส่วนธุรกิจ LOOX TV ซึ่งเป็นแอพพิเคชั่น การรับชมโทรทัศน์ผ่านเครือข่ายอินเทอร์เน็ตบนมือถือ รองรับพฤติกรรมของผู้บริโภคที่เปลี่ยนแปลงไป มองว่าเป็นธุรกิจที่เสริมช่องทางให้ผู้บริโภคได้รับชมเนื้อหาของลูกค้าของบริษัทมากขึ้น ซึ่งในอนาคตเราอาจมีการรับการโฆษณาเข้ามาเพื่อสร้างรายได้ ขณะที่การถ่ายทอดรายการความละเอียดระดับ 4K หรือ Ultra HD ซึ่งเป็นประสบการณ์การให้บริการรูปแบบใหม่ซึ่งกำลังเป็นที่นิยมในปัจจุบัน เราก็อยู่ระหว่างการศึกษาเพื่อการขยายฐานรายได้จากปัจจุบัน ที่มีการได้ให้บริการผ่านลูกค้าทรูวิชั่นส์ มองว่าธุรกิจดังกล่าวถือเป็นรายได้ใหม่ และเราก็ได้มีการเจรจากับพันธมิตรเพื่อร่วมมือสนับสนุนการเผยแพร่ 4K ใอีกด้วย"

      นางสาวนาลิวันกล่าวพร้อมบอกต่อว่า นอกจากนี้บริษัทยังได้ศึกษาการขยายธุรกิจใหม่ ๆ อาทิ การทำ VDO Analytics, Robotic และ Drone เนื่องจากว่ากำลังเป็นธุรกิจที่โลกใช้งานมากขึ้น โดยมองว่าพื้นฐานด้านเทคโนโลยีของบริษัท มีศักยภาพที่สามารถต่อยอดในการทำธุรกิจประเภทนี้ได้

 

 

THCOM รับรายได้ปีนี้ลดลง หลังครึ่งแรกวูบ 17.2% มั่นใจรักษา EBITDA ที่ 40-45% คุมต้นทุนได้ดี

     บริษัท ไทยคม จำกัด (มหาชน) หรือ THCOM เปิดเผยในงาน Opportunity Day โดยมี นางสาวนาลิวัน ชินะผา ผู้ช่วยผู้อำนวยการสำนักการลงทุนสัมพันธ์ เป็นผู้ให้ข้อมูล ยอมรับรายได้ปีนี้ลดลง หลังครึ่งปีแรกรายได้ลดลง 17.2% แต่มั่นใจรักษา EBITDA ที่ 40-45% หลังควบคุมต้นทุนได้ดี เล็งผนึกพันธมิตรต่างชาติศึกษาร่วมทุนดาวเทียมขนาดใหญ่ ก่อนสัปทานหมดปี 64 พร้อมขยายให้บริการอินเตอร์เน็ตบนเรือ เจาะลูกค้ากลุ่มประมง รายละเอียดดังนี้

       บริษัทยอมรับรายได้ปีนี้ลดลง หลังครึ่งปีรายได้ลดลงแล้ว 17.2 % เนื่องจากลูกค้าประเทศจีนหายไป ซึ่งคิดเป็นสัดส่วน 25% ของความสามารถในการให้บริการไทยคม 4 (IPSTAR) และ ยังหาลูกค้าใหม่มาทดแทนอย่างต่อเนื่อง แต่ไม่สามารถชดเชยลูกค้าจีนที่หายไปได้ เนื่องจากมีสัดส่วนการใช้งานขนาดใหญ่ แต่ช่วงปลายไตรมาส 3/61 จะเริ่มรับรู้รายได้จากลูกค้าฟิลิปปินส์ที่ให้บริการสัญญาณดาวเทียมบรอดแบนด์กับ บริษัท วี อาร์ ไอที ฟิลิปปินส์ จำกัด (ดับเบิลยูไอที) ผู้นำการให้บริการบรอดแบนด์ในประเทศฟิลิปปินส์ทำให้มีอัตราการใช้ 4% ของไทยคม 4

       อย่างไรก็ตาม บริษัทยังได้หาธุรกิจใหม่ เช่น การให้บริการบรอดแบนด์อินเตอร์เน็ตความเร็วสูงผ่านดาวเทียม หรือ NAVA Service ซึ่งปัจจุบันมีผู้ใช้บริการ 39 ลำ และ ได้ลงนามสัญญากับกองทัพเรือ จำนวน 12 ลำ โดยล่าสุดต้นสัปดาห์ที่ผ่านมาได้เซ็นสัญญาให้บริการดาวเทียมกับเรือขุดเจาะสำรวจปิโตรเลียม จำนวน 30 ลำส่งผลให้ตอนนี้มีผู้ใช้บริการ 80-90 ลำ สูงกว่าเป้าหมายที่ตั้งไว้เดิมที่ 60-70 ลำ อีกทั้ง ในปีหน้าจะหาลูกค้าตลาดประมงเพิ่มเติม ซึ่งบริษัทต้องการหารายได้เสริม และ ชดเชยดาวเทียมที่จะหมดสัปทานลงในปี 64

       “เรือขุดเจาะสำรวจปิโตรเลียม คาดใช้เวลา 6 เดือนในการติดตั้ง ซึ่งคาดว่าในไตรมาส 4/61 จะเริ่มรับรู้รายได้ ส่วนธุรกิจที่เกี่ยวกับเรือประมงจะเห็นในปี 62 และ จะช่วยเสริมรายได้ให้กับเรา ซึ่งตอนนี้สัดส่วนรายได้ 80-90% ยังมาจากดาวเทียม”นางสาวนาลิวัน กล่าว

       บริษัทยังหาธุรกิจใหม่เพิ่มเติม โดยอยู่ระหว่างศึกษาร่วมทุนดาวเทียมขนาดใหญ่กับพันธมิตรต่างชาติเพื่อรับมือสัมปทานที่จะหมดอายุในปี 64 เนื่องจากเป็นธุรกิจที่ไม่ต้องรอสัมปทานจากรัฐบาลไทย เพราะจะใช้กฏระเบียบนานาชาติ ประกอบกับ เป็นการกระจายความเสี่ยง หลังมีพันธมิตรร่วมทุน นอกจากนี้ อยู่ระหว่างเจรจากับจีนเพื่อให้บริการบริหารจัดการดาวเทียม ซึ่งบริษัทไม่ต้องลงทุนเอง โดยจีนจะเป็นผู้ลงทุน 200 ล้านเหรียญสหรัฐ คาดว่าจะชัดเจนในปีนี้ และ บริษัทจะทยอยรับรู้รายได้ใน 3 ปี

        ในขณะที่อัตรากำไรก่อนภาษี ค่าเสื่อม (EBITDA margin)ปีนี้คาดอยู่ที่ 40-45% หลังควบคุมต้นทุนได้ดี โดยไตรมาส 2/61 อยู่ที่ 48% และ ไตรมาส 1/61 อยู่ที่ 31% ซึง่คาดว่าเฉลี่ยทั้งปีก็จะรักษาให้อยู่ในระดับดังกล่าวได้

        สำหรับ กระแสเงินสดในปัจจุบันมีอยู่ 6,874 ล้านบาท ซึ่งบริษัทจะแบ่งออกเป็น 3 ส่วน ส่วนแรกจะคืนหนี้บางส่วน ที่ปัจจุบันมีหนี้อยู่ประมาณ 7,000 ล้านบาท และ ลงทุนในโครงการอนาคต และ หากยังมีเงินเหลือก็จะพิจารณาจ่ายปันผล

สำนักข่าวอีไฟแนนซ์ไทย

ooKbee1

corehoon NEW2

 

 

ข่าวล่าสุด!!