หมวดหมู่: พาณิชย์

คุยจีนซื้อข้าวไทย เพิ่มอีก 100,000 ตัน โวส่งออก 61 โต 9%

MOCสนธรตน สนธจรวงศ


        ไทยโพสต์ * ปลื้มจีนตกลงซื้อข้าวไทยงวดที่ 6 อีก 1 แสนตัน เตรียมส่งมอบเดือน ก.ย.-ต.ค.นี้ ฟุ้งส่งผลดีต่อข้าวฤดูกาลใหม่ที่จะมีคำสั่งซื้อรองรับ ชาวนาขายข้าวเปลือกได้ในราคาสูงขึ้น มั่นใจทั้งปีขายข้าวทะลุ 11 ล้านตันแน่ พาณิชย์ฟันธงส่งออกปีนี้โต 9%

     นายสนธิรัตน์ สนธิจิรวงศ์ รมว.พาณิชย์ เปิดเผยถึงความคืบหน้าในการส่งมอบข้าวปริมาณ 1 ล้านตัน ให้ COFCO ซึ่งเป็นรัฐวิสาหกิจของจีน ภายใต้สัญญาซื้อขายข้าวในรูปแบบรัฐต่อรัฐ (จีทูจี) ฉบับปี 2558 ว่า ขณะนี้กรมการค้าต่างประเทศสามารถตกลงราคาสำหรับการขายข้าวในงวดที่ 6 ปริมาณ 1 แสนตัน ให้กับ COFCO ได้แล้ว หลังจากที่รัฐบาลจีนได้ชะลอการ นำเข้าข้าวในช่วงกลางปีที่ผ่านมา เนื่องจากจีนมีผลผลิตข้าวปริ มาณมาก ส่งผลให้ความต้องการนำเข้าข้าวในตลาดจีนมีน้อย

       สำหรับ กำหนดการส่งมอบ คาดว่าจะเป็นปลายเดือน ก.ย.-ต.ค.นี้ ซึ่งเป็นข่าวดีสำหรับเกษตรกรชาวนาและตลาดข้าวไทยที่มีคำสั่งซื้อปริมาณมากมารองรับผลผลิต ตั้งแต่ช่วงต้นฤดูนาปีที่ข้าวไทยเริ่มทยอยออกสู่ตลาด เนื่องจากผู้ส่งออกจะต้องไปรับซื้อข้าวเปลือกจากชาวนา เพื่อส่งมอบภายใต้สัญญาดังกล่าว ซึ่งจะช่วยกระตุ้นให้ราคาข้าวเปลือกที่เกษตรกรได้รับมีเสถียรภาพมากยิ่งขึ้น

      "กระทรวงมั่นใจว่า การหาตลาดรองรับผลผลิตข้าวไทยที่ดำเนินการอย่างเข้มข้น บวกกับมีความต้องการซื้อข้าวไทยเข้ามาอย่างต่อเนื่อง ซึ่งดูได้จากสถิติการส่งออกข้าวล่าสุดตั้งแต่ 1 ม.ค.-21 ก.ย.2561 ส่งออกได้แล้ว 8.22 ล้านตัน เพิ่มขึ้น 2.93% มูลค่า 134,840 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 13.57% ทำให้มั่นใจว่าการส่งออกข้าวของไทยในปีนี้จะบรรลุเป้าหมายที่ตั้งไว้ที่ 11 ล้านตัน ได้อย่างแน่นอน และจะส่งผลดีต่อราคาข้าวภาย ในประเทศที่เกษตรกรจะขายได้" นายสนธิรัตน์กล่าว

       นางจันทิรา ยิมเรวัต วิ วัฒน์รัตน์ อธิบดีกรมส่งเสริมการค้าระหว่างประเทศ กล่าวว่า การส่งออกของประเทศในปี 2561 ยังคงโตต่อเนื่อง โดยในช่วง 8 เดือนที่ผ่านมา ขยายตัวเพิ่มขึ้น 10% มูลค่า 169,030 ล้านเหรียญสหรัฐ การนำเข้าขยายตัว 15.9% มูลค่า 166,679 ล้านเหรียญสหรัฐ มีปัจจัยหลักมาจากการฟื้นตัวของเศรษฐกิจโลก ราคาน้ำมันอยู่ในระดับที่มี เสถียรภาพ ความต้องการสิน ค้าไทยยังขยายตัวต่อเนื่อง ประ กอบกับการลงทุนของบริษัทต่างชาติ โดยเฉพาะการลงทุนต่างชาติในโครงการเขตพัฒนาพิเศษภาคตะวันออก (อีอีซี) เพิ่มขึ้น ดังนั้น คาดทั้งปีจะขยายตัว 9% ส่วนในปี 2562 นั้น หากไม่มีปัจจัยกดดันเพิ่มเติมเชื่อว่าการส่งออกจะยังคงขยายตัวได้อย่างต่อเนื่องใกล้เคียงกับปี 2561.

พาณิชย์ เผยมีเอกชนเสนอราคาซื้อข้าวรัฐ 2 ชนิดรวม 32 ราย

 กรมการค้าต่างประเทศได้ประกาศรายชื่อผู้เสนอซื้อที่ผ่านการตรวจสอบคุณสมบัติเบื้องต้น และได้เปิดให้ยื่นซองเสนอราคาซื้อข้าวสารในสต็อกของรัฐเข้าสู่อุตสาหกรรมที่ไม่ใช่การบริโภคของคน ปริมาณ 2.45 แสนตัน เมื่อวันที่ 29 สิงหาคม 2561 และเข้าสู่อุตสาหกรรมที่ไม่ใช่การบริโภคของคนและสัตว์ ปริมาณ 2.23 หมื่นตัน เมื่อวันที่ 30 สิงหาคม 2561

  นางมนัสนิตย์ จิรวัฒน์ รองอธิบดีกรมการค้าต่างประเทศ เปิดเผยว่า รองประธานกรรมการนโยบายและบริหารจัดการข้าว (นบข.) (พลเอก ฉัตรชัย สาริกัลยะ) รับคำสั่งประธานกรรมการ นบข. (พลเอก ประยุทธ์ จันทร์โอชา) ได้เห็นชอบให้กรมฯ ในฐานะคณะทำงานดำเนินการระบายข้าวในสต็อกของรัฐออกประกาศจำหน่ายข้าวสาร

  ในสต็อกของรัฐเข้าสู่อุตสาหกรรมที่ไม่ใช่การบริโภคของคน ครั้งที่ 2/2561 ปริมาณ 2.45 แสนตัน จำนวน 18 คลัง และเข้าสู่อุตสาหกรรมที่ไม่ใช่การบริโภคของคนและสัตว์ ครั้งที่ 2/2561 ปริมาณ 2.23 หมื่นตัน จำนวน 20 คลัง ปรากฏว่ามีผู้ผ่านคุณสมบัติผู้เสนอซื้อเบื้องต้นในการจำหน่ายข้าวสารในสต็อกของรัฐเข้าสู่อุตสาหกรรมที่ไม่ใช่การบริโภคของคน ทั้งหมด 26 ราย และเข้าสู่อุตสาหกรรมที่ไม่ใช่การบริโภคของคนและสัตว์ ทั้งหมด 16 ราย

  ทั้งนี้ หากปรากฏภายหลังว่าผู้เสนอซื้อรายใดขาดคุณสมบัติหรือมีลักษณะต้องห้ามตามที่ประกาศกำหนดจะถือว่าผู้เสนอซื้อรายนั้นขาดคุณสมบัติมาตั้งแต่ต้น และจะถูกดำเนินการตามหลักเกณฑ์และเงื่อนไขของประกาศฯ ที่กำหนดไว้

  ต่อมากรมฯ ได้กำหนดให้ผู้ผ่านคุณสมบัติผู้เสนอซื้อเบื้องต้นยื่นซองเสนอราคาซื้อข้าวสารในสต็อกของรัฐเข้าสู่อุตสาหกรรมที่ไม่ใช่การบริโภคของคน เมื่อวันที่ 29 สิงหาคม 2561 และเข้าสู่อุตสาหกรรมที่ไม่ใช่การบริโภคของคนและสัตว์ เมื่อวันที่ 30 สิงหาคม 2561 ซึ่งผลจากการเปิดซองเสนอราคาซื้อข้าวทั้ง 2 กลุ่ม สรุปได้ ดังนี้

  1. การจำหน่ายข้าวสารในสต็อกของรัฐเข้าสู่อุตสาหกรรมที่ไม่ใช่การบริโภคของคน ครั้งที่ 2/2561 เมื่อวันที่ 29 สิงหาคม 2561 มีผู้ผ่านคุณสมบัติมายื่นซอง จำนวน 20 ราย โดยเป็นผู้เสนอซื้อสูงสุด จำนวน 5 ราย ใน 18 คลัง ปริมาณ 2.45 แสนตัน (คิดเป็นร้อยละ 100 ของปริมาณที่เปิดประมูลทั้งหมด) มูลค่าที่เสนอซื้อประมาณ 1,655.39 ล้านบาท และราคาเสนอซื้อสูงสุดเฉลี่ย คือ 6,670 บาท/ตัน สำหรับชนิดข้าวที่มีผู้เสนอซื้อมากที่สุด คือ ข้าวขาว 5% ปริมาณ 0.22 แสนตัน คิดเป็นร้อยละ 91.61 รองลงมา คือ ข้าวปทุมธานี ปริมาณ 0.01 แสนตัน คิดเป็นร้อยละ 3.58

  2. การจำหน่ายข้าวสารในสต็อกของรัฐเข้าสู่อุตสาหกรรมที่ไม่ใช่การบริโภคของคนและสัตว์ ครั้งที่ 2/2561 เมื่อวันที่ 30 สิงหาคม 2561 มีผู้ผ่านคุณสมบัติมายื่นซองจำนวน 12 ราย โดยเป็นผู้เสนอซื้อสูงสุด จำนวน 5 ราย ใน 20 คลัง ปริมาณ 2.23 หมื่นตัน (คิดเป็นร้อยละ 100 ของปริมาณที่เปิดประมูลทั้งหมด) มูลค่าที่เสนอซื้อประมาณ 114.19 ล้านบาท และราคาเสนอซื้อสูงสุดเฉลี่ย คือ 4,584 บาท/ตัน สำหรับชนิดข้าวที่มีผู้เสนอซื้อมากที่สุด คือ ข้าวเหนียวขาว 10% ปริมาณ 0.49 หมื่นตัน คิดเป็นร้อยละ 22.15 รองลงมา คือ ปลายข้าวหอมมะลิ ปริมาณ 0.49 หมื่นตัน คิดเป็นร้อยละ 21.79

  รองอธิบดีกรมการค้าต่างประเทศ เปิดเผยเพิ่มเติมว่าในลำดับต่อไปกรมฯ จะรวบรวมผลการยื่นซองเสนอราคาซื้อข้าวในสต็อกของรัฐทั้ง 2 กลุ่ม เข้าที่ประชุมคณะทำงานฯ และคณะอนุกรรมการพิจารณาระบายข้าวพิจารณาก่อนนำเสนอประธานกรรมการ นบข. พิจารณาให้ความเห็นชอบการจำหน่ายข้าวในสต็อกของรัฐ

   โดยข้าวที่นำออกมาระบายทั้ง 2 กลุ่ม เป็นการจำหน่ายเข้าสู่อุตสาหกรรม ซึ่งคณะกรรมการ นบข. ได้ให้ความสำคัญกับการกำกับดูแลการนำข้าวในสต็อกของรัฐไปใช้ในอุตสาหกรรมเป็นอย่างมาก โดยกำชับให้องค์การคลังสินค้า (อคส.) และองค์การตลาดเพื่อเกษตรกร (อ.ต.ก.) คุมเข้มกำกับดูแลให้ผู้ซื้อนำข้าวในสต็อกของรัฐไปใช้ในอุตสาหกรรม

   ตามหนังสือรับรองตนเองที่แจ้งไว้โดยเคร่งครัด เพื่อป้องกันการรั่วไหลเข้าสู่ระบบการค้าปกติ ซึ่งหากผู้ซื้อไม่ปฏิบัติตามเงื่อนไข มีการนำข้าวไปใช้ผิดวัตถุประสงค์ จะต้องถูกดำเนินคดีตามกฎหมาย

สำนักข่าวอีไฟแนนซ์ไทย

ooKbee1

corehoon NEW2

 

 

ข่าวล่าสุด!!