หมวดหมู่: มติ ครม.

GOV4 copy copy


ร่างพิธีสารเพื่อแก้ไขเอกสารแนบ 2 ของความตกลงการสำรองข้าวฉุกเฉินของอาเซียนบวกสาม

 

      คณะรัฐมนตรีมีมติเห็นชอบและอนุมัติตามที่กระทรวงเกษตรและสหกรณ์ (กษ.) เสนอ ดังนี้

     1. เห็นชอบต่อร่างพิธีสารเพื่อแก้ไขเอกสารแนบ 2 ของความตกลงการสำรองข้าวฉุกเฉินของอาเซียนบวกสาม (ความตกลงแอปเทอร์) ทั้งนี้ หากมีความจำเป็นต้องแก้ไขปรับปรุงร่างพิธีสารฯ ในส่วนที่ไม่ใช่สาระสำคัญและไม่ขัดกับหลักการที่คณะรัฐมนตรีได้ให้ความเห็นชอบไว้ ให้ กษ. ดำเนินการได้ โดยให้นำเสนอคณะรัฐมนตรีทราบภายหลัง พร้อมทั้งให้ชี้แจงเหตุผลและประโยชน์ที่ประเทศไทยได้รับจากการปรับเปลี่ยนดังกล่าวตามหลักเกณฑ์ของมติคณะรัฐมนตรีเมื่อวันที่ 30 มิถุนายน 2558 (เรื่อง การจัดทำหนังสือสัญญาเกี่ยวกับความสัมพันธ์ระหว่างประเทศหรือองค์การระหว่างประเทศ)

      2. อนุมัติให้รัฐมนตรีว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์หรือผู้ที่ได้รับมอบหมายลงนามพิธีสารเพื่อแก้ไขเอกสารแนบ 2 ของความตกลงแอปเทอร์ และมอบหมายให้กระทรวงการต่างประเทศ (กต.) จัดทำหนังสือมอบอำนาจเต็ม (Full Powers) ให้กับรัฐมนตรีว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์หรือผู้ที่ได้รับมอบหมายเป็นผู้ลงนามพิธีสารเพื่อแก้ไขเอกสารแนบ 2 ของความตกลงแอปเทอร์

      3. อนุมัติการให้สัตยาบัน และหลังจากที่ได้ลงนามพิธีสารเพื่อแก้ไขเอกสารแนบ 2 ของความตกลงแอปเทอร์แล้ว ให้ กต. จัดทำสัตยาบันสาร และยื่นสัตยาบันสารต่อสำนักเลขาธิการอาเซียนเพื่อเก็บรักษา

     4. เห็นชอบในหลักการให้สำนักงบประมาณ (สงป.) สนับสนุนงบประมาณให้กับเงินทุนดำเนินงานของกองทุนแอปเทอร์ ในวงเงินประมาณปีละ 8,000 ดอลลาร์สหรัฐเป็นเวลา 5 ปี รวมเป็นเงิน 40,000 ดอลลาร์สหรัฐ ทั้งนี้ ให้ กษ. ประสาน สงป. ต่อไป และให้ กษ. รับความเห็นของกระทรวงพาณิชย์และสำนักงานคณะกรรมการพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติไปพิจารณาดำเนินการต่อไปด้วย

     สาระสำคัญของร่างพิธีสารเพื่อแก้ไขเอกสารแนบ 2 ของความตกลงการสำรองข้าวฉุกเฉินของอาเซียนบวกสาม (ความตกลงแอปเทอร์) เป็นการแก้ไขเพื่อให้ประเทศสมาชิกแอปเทอร์ซึ่งประกอบด้วยประเทศสมาชิกอาเซียน สาธารณรัฐประชาชนจีน ญี่ปุ่น และเกาหลีใต้ จ่ายเงินสนับสนุนการดำเนินงานของสำนักเลขาธิการแอปเทอร์ต่อไปอีก 5 ปี (พ.ศ. 2561 – 2565) โดยประเทศไทยจะต้องจ่ายเงินสนับสนุนสำหรับเงินทุนดำเนินงาน ปีละ 8,000 ดอลลาร์สหรัฐ รวมเป็นเงิน 40,000 ดอลลาร์สหรัฐ (ประมาณ 1.31 ล้านบาท) ซึ่ง กษ. ได้เสนอตั้งงบประมาณสำหรับปี พ.ศ. 2562 รองรับไว้แล้ว

      สำหรับ องค์กรสำรองข้าวฉุกเฉินของอาเซียนบวกสาม (แอปเทอร์) เป็นกลไกถาวรระหว่างประเทศเพื่อการจัดตั้งระบบสำรองข้าวไว้สำหรับช่วยเหลือด้านมนุษยธรรมในระหว่างประเทศสมาชิกด้วยกันเองกรณีที่ประเทศสมาชิกประสบภัยพิบัติฉุกเฉิน ซึ่งเป็นการเสริมสร้างความมั่นคงด้านอาหารในภาวะไม่ปกติให้กับภูมิภาคโดยไม่กระทบต่อการค้าข้าวในตลาดปกติ โดยแต่ละประเทศจะสำรองข้าวไว้ในรูปสัญญา (Earmarked Reserve) เพื่อให้ประเทศสมาชิกที่ประสบภัยพิบัติสามารถจับคู่ทำสัญญาซื้อข้าวได้อย่างเหมาะสมและรวดเร็ว

      รวมทั้งให้เปล่าข้าวที่มีอยู่จริง (ในรูปข้าวจริงหรือเงินสด) (Stockpiled Reserve) เพื่อนำไปช่วยเหลือประเทศสมาชิกที่ประสบภัยพิบัติ ซึ่งที่ผ่านมาประเทศไทยได้บริจาคข้าว จำนวน 5,000 ตัน ให้แก่ผู้ประสบภัยจากพายุไห่เยี่ยนในประเทศฟิลิปปินส์ ขณะที่ประเทศไทยเคยได้รับความช่วยเหลือจากเหตุการณ์มหาอุทกภัยในปี 2554 เช่นกัน โดยในการบริหารงานจะมีสำนักเลขานุการแอปเทอร์ (APTERR Secretariat) มีที่ตั้งอยู่ในประเทศไทย ณ อาคารสำนักงานเศรษฐกิจการเกษตรทำหน้าที่บริหารจัดการดำเนินงานตามนโยบาย แผนงาน/โครงการตามที่กำหนดโดยคณะมนตรีแอปเทอร์ (APTERR Council) ซึ่งประกอบด้วยผู้แทนจากประเทศสมาชิก

        โดยความตกลงแอปเทอร์กำหนดให้มีกองทุนแอปเทอร์ (APTERR Funds) ซึ่งจัดตั้งขึ้นเพื่อสนับสนุนการดำเนินงานและกิจกรรมของแอปเทอร์ โดยมีจำนวนเงินทุนที่ประเทศสมาชิกต้องสนับสนุนซึ่งระบุไว้ในเอกสารแนบ 2 ของความตกลงแอปเทอร์ ประกอบด้วยเงินกองทุนที่ใช้เฉพาะดอกผล (Endowment Fund - EF) และเงินทุนดำเนินงาน (Operational Cost - OC) เพื่อเป็นค่าใช้จ่ายในการดำเนินงานในช่วง 5 ปีแรก โดยมีแผนว่าหลังจากช่วง 5 ปีแรก สำนักเลขานุการแอปเทอร์จะนำดอกเบี้ยที่ได้จากเงินกองทุนที่ใช้เฉพาะดอกผลมาใช้เป็นค่าใช้จ่ายในการดำเนินงานของสำนักเลขานุการฯ แต่ปรากฏว่าผลตอบแทนจากการฝากเงินกองทุนที่ใช้เฉพาะดอกผลของธนาคารในประเทศไทยต่ำกว่าที่คาดการณ์ไว้ ทำให้ในระหว่างปี พ.ศ. 2556 – 2559 ได้รับดอกเบี้ยเพียง 1,848.34 ดอลลาร์สหรัฐ ซึ่งไม่เพียงพอกับค่าใช้จ่ายของสำนักเลขานุการฯ (ซึ่งในช่วง 5 ปีแรกกำหนดไว้ที่ปีละ 299,000 ดอลลาร์สหรัฐ) ที่ประชุมเจ้าหน้าที่อาวุโสของรัฐมนตรีอาเซียนบวกสามด้านการเกษตรและป่าไม้ ครั้งที่ 16 สมัยพิเศษ (AMAF+3) เมื่อวันที่ 16 สิงหาคม 2560 ณ ประเทศสิงคโปร์ จึงมีมติเห็นชอบการสนับสนุนเงินทุนดำเนินงานให้กับสำนักเลขานุการแอปเทอร์ต่อไปอีกเป็นเวลา 5 ปี (พ.ศ. 2561 - 2565) ในจำนวนเงินเท่ากับเงินทุนดำเนินงานสำหรับ พ.ศ. 2556 – 2560 โดยได้มอบหมายให้สำนักเลขาธิการอาเซียนดำเนินการจัดทำร่างพิธีสารเพื่อแก้ไขเอกสารแนบ 2 ของความตกลงแอปเทอร์ให้ประเทศสมาชิกพิจารณาและดำเนินการตามขั้นตอนภายในประเทศก่อนการลงนามต่อไป

        ที่ประชุมคณะรัฐมนตรี พลเอก ประยุทธ์ จันทร์โอชา (นายกรัฐมนตรี) วันที่ 2 ตุลาคม 2561

ooKbee1

corehoon NEW2

 

 

ข่าวล่าสุด!!