ส่วนหลักทรัพย์เปลี่ยนแปลงวันนี้ เพิ่มขึ้น 1,207 หลักทรัพย์ ลดลง 479 หลักทรัพย์ และไม่เปลี่ยนแปลง 315 หลักทรัพย์

นายวิจิตร อารยะพิศิษฐ ผู้อำนวยการฝ่ายวิจัยหลักทรัพย์ บล.เมย์แบงก์ กิมเอ็ง (ประเทศไทย) กล่าวว่า ตลาดหุ้นไทยวันนี้รีบาวด์ตอบรับมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจ เชื่อว่าจะเป็นแรงกระตุ้นเศรษฐกิจได้ในระยะสั้นท่ามกลางปัจจัยลบรอบด้าน ซึ่งน่าจะทำให้อัตราการขยายตัวทางเศรษฐกิจ (GDP) ของไทยเพิ่มขึ้นอีกราว 0.2% โดยปีนี้คาดว่า GDP จะเติบโตได้ถึง 3% จากเดิมคาดว่าจะเติบโตราว 2.8%

 

นอกจากนี้ สัญญาณเศรษฐกิจโลกที่ไม่ดีทำให้ธนาคารกลางทั่วโลกต่างดำเนินนโยบายผ่อนคลายและหันมากระตุ้นเศรษฐกิจด้วยการปรับลดอัตราดอกเบี้ย คาดว่าการประชุมธนาคารกลางสหรัฐฯ (เฟด) ในวันที่ 17-18 ก.ย.นี้ เฟดมีโอกาสจะปรับลดอัตราดอกเบี้ยลงอีกรอบหนึ่ง

 

ด้านตลาดหุ้นในภูมิภาคเอเชียวันนี้ก็เคลื่อนไหวในแดนบวกราว 0.3% เช่นเดียวกับตลาดในยุโรปที่บวกราว 1% หลังจากเปิดเทรดในช่วงบ่ายวันนี้ตามเวลาของไทย

แนวโน้มการลงทุนในสัปดาห์หน้า นายวิจิตร กล่าวว่า ตลาดฯคงจะผันผวน แต่ก็มีลุ้นขึ้นไปต่อได้หลังจากดัชนีฯปรับลงไปมากแล้ว พร้อมแนะติดตามความคืบหน้าสงครามการค้าระหว่างสหรัฐและจีน รวมถึงตัวเลข GDP ของไทยงวดไตรมาส 2/62 ซึ่งตลาดฯคาดว่าจะเติบโต 2.3% และทิศทางอัตราผลตอบแทนพันธบัตร (Bond yield) ของสหรัฐฯทั้งระยะสั้น-ระยะยาว

 

CPALL   มูลค่าการซื้อขาย  3,037.30 ล้านบาท ปิดที่   84.50 บาท เพิ่มขึ้น 2.00 บาท

KBANK   มูลค่าการซื้อขาย  2,376.81 ล้านบาท ปิดที่  157.50 บาท เพิ่มขึ้น 2.50 บาท

SCB     มูลค่าการซื้อขาย  2,171.97 ล้านบาท ปิดที่  124.00 บาท เพิ่มขึ้น 3.50 บาท

INTUCH  มูลค่าการซื้อขาย  2,113.90 ล้านบาท ปิดที่   62.25 บาท เพิ่มขึ้น 1.00 บาท

SCC     มูลค่าการซื้อขาย  2,053.71 ล้านบาท ปิดที่  412.00 บาท เพิ่มขึ้น 6.00 บาท

 

--อินโฟเควสท์