หมวดหมู่: พาณิชย์

1aaagE1วันชัย วราวิทย์


ตุรกี เปิดใช้งานระบบการตรวจออนไลน์สำหรับผลิตภัณฑ์จากพืชหรือสัตว์ พร้อมออกกฎระเบียบควบคุมการนำเข้าสินค้า 'gelatin capsule'ที่มีส่วนประกอบของพืชหรือสัตว์

     กรมการค้าต่างประเทศเผย ตุรกีพร้อมใช้งานระบบการตรวจออนไลน์สำหรับผลิตภัณฑ์จากพืชหรือสัตว์ที่นำเข้าหรือนำผ่าน และออกระเบียบควบคุมสินค้า “gelatin capsule” ที่มีส่วนประกอบของพืชหรือสัตว์ ย้ำผู้ส่งออกควรศึกษาการใช้ระบบและกฎระเบียบให้ชัดเจน เพื่อไม่เป็นอุปสรรคทางการค้าของไทย

        นายวันชัย วราวิทย์ รองอธิบดีกรมการค้าต่างประเทศ เปิดเผยว่า สถานเอกอัครราชทูตสาธารณรัฐตุรกีประจำประเทศไทย แจ้งว่า กระทรวงเกษตรและป่าไม้สาธารณรัฐตุรกีได้เปิดใช้งานระบบการตรวจสอบออนไลน์สำหรับผลิตภัณฑ์ที่มีส่วนประกอบของพืชหรือสัตว์ที่นำเข้าหรือผ่านทางไปสาธารณรัฐตุรกี ซึ่งสามารถเข้าสู่ระบบดังกล่าวได้ทางเว็บไซต์ https://hbs.tarbil.gov.tr/web โดยในส่วนของการนำเข้าสามารถใช้งานระบบได้ตั้งแต่วันที่ 1 กันยายน 2562 และในส่วนของการนำผ่านจะสามารถใช้งานได้ตั้งแต่วันที่ 1 มกราคม 2563 เป็นต้นไป

        นอกจากนี้ กระทรวงเกษตรและป่าไม้สาธารณรัฐตุรกี ยังได้ออกระเบียบควบคุมสินค้า 'gelatin capsule' นำเข้าที่มีส่วนประกอบของพืชหรือสัตว์ โดยหากผลิตมาจากสัตว์เคี้ยวเอื้องที่ได้มาจากเนื้อเยื่อหรือกระดูก นอกเหนือจากหนัง/ผิวหนัง จะต้องขออนุญาตนำเข้าภายใต้เงื่อนไขที่กำหนด ซึ่งมีผลบังคับใช้แล้ว ตั้งแต่วันที่ 15 มิถุนายน ที่ผ่านมา โดยมีสาระสำคัญ ดังนี้

  1. ผู้ส่งออกจะต้องแสดงใบรับรองว่า เจลาตินในสินค้า'gelatin capsule' ที่ผลิตในประเทศผู้ส่งออก ใช้วัตถุดิบที่มีส่วนผสมของเนื้อสัตว์หรือส่วนหนึ่งส่วนใดของสัตว์ที่เลี้ยงภายในประเทศผู้ส่งออกหรือมาจากแหล่งที่ปลอดจากโรคระบาดตามประกาศขององค์การโรคระบาดสัตว์ระหว่างประเทศ (World Organization for Animal Health หรือ Office International des ?pizooties : OIE) และเป็นไปตามข้อกำหนดของสาธารณรัฐตุรกี รวมทั้งข้อกำหนดของ EU Regulation (EC) No.999/2001 ด้วย
  2. ผู้ส่งออกจะต้องแนบเอกสาร 2 ฉบับ ในการนำเข้าสินค้า 'gelatin capsule' มายังสาธารณรัฐตุรกี ประกอบด้วย

         2.1 เอกสาร “'Declaration of Competent Authority' ที่สำแดงว่าเป็นประเทศที่ถูกควบคุมหรือมีความเสี่ยงเป็นโรควัวบ้า (Bovine Spongiform Encephalopathy : BSE) โดยมีรายละเอียดดังนี้ (1) เลขที่ของใบรับรอง “gelatin capsule” ที่ใช้ในผลิตภัณฑ์ที่มีการส่งออกมายังสาธารณรัฐตุรกี ซึ่งมีการตรวจสอบแล้วว่าปลอดโรค (2) ระบุประเทศแหล่งกำเนิด/ประเทศทางผ่านที่ถูกควบคุมหรือกลุ่มประเทศในโซนพื้นที่ ที่มีความเสี่ยงจากโรควัวบ้าที่ควบคุมได้ (Controlled BSE Risk) เช่น แคนาดา สาธารณรัฐฝรั่งเศส สาธารณรัฐเฮลเลนิก (กรีซ) สาธารณรัฐไอร์แลนด์ สาธารณรัฐนิการากัว เป็นต้น หรือกลุ่มประเทศในโซนพื้นที่ที่ยังไม่มีการประเมินความเสี่ยงจากโรควัวบ้า (Undetermined BSE risk) จะต้องมีการตรวจโรคก่อนฆ่าและการตรวจซากเครื่องในภายหลังการฆ่า (3) ขั้นตอน/กระบวนการผลิตจากสัตว์เคี้ยวเอื้อง นอกเหนือจากหนัง/ผิวหนัง ซึ่งจะต้องผ่านกระบวนการต่างๆ ประกอบด้วย การสกัดไขมัน การสลายแร่ธาตุในสภาวะกรด การทำให้เป็นกรดหรือด่าง การกรอง และการฆ่าเชื้อโรค โดยจะต้องผ่านความร้อนที่อุณหภูมิ ? 138 องศาเซลเซียส เป็นเวลาอย่างน้อย 4 วินาที (หรือกระบวนการที่เทียบเท่า)

         2.2 เอกสาร 'Manufacturer Declaration'เป็นเอกสารที่สำแดงว่า gelatin capsule ที่ผลิตมาจากสัตว์ ต้องไม่ใช่วัตถุดิบที่ทำมาจากสัตว์เคี้ยวเอื้อง นอกเหนือจากหนัง/ผิวหนัง และต้องไม่มีส่วนประกอบและไม่เป็นวัตถุดิบที่มีความเสี่ยงจำเพาะต่อโรควัวบ้า (Specified Risk Material : SRM) ตามที่กำหนดไว้ใน EU Regulation (EC) 999/2001

      นายวันชัย กล่าวเพิ่มเติมว่า เจลาตินเป็นโปรตีนชนิดหนึ่งที่เกิดจากการสลายคอลลาเจนด้วยกรดหรือด่างมีลักษณะเป็นผงสีน้ำตาลอ่อน สามารถสกัดได้จากกระดูกหรือหนังสัตว์ (เช่น วัว กระบือ) โดยสามารถนำมาใช้เป็นส่วนประกอบในผลิตภัณฑ์หลายชนิด เช่น เครื่องสำอาง ยา อาหาร และฟิล์มถ่ายรูป โดยในทางเภสัชกรรมใช้เจลาตินเพื่อประโยชน์หลายอย่าง ได้แก่ สารเคลือบ (coating agent) สารก่อเจล (gelling agent) สารช่วยยึดเกาะในยาเม็ด (tablet binder) สารเพิ่มความหนืด (viscosity-increasing agent) เป็นต้น และนิยมนำมาผลิตเป็นแคปซูล 2 ประเภทได้แก่ (1) แคปซูลเจลาตินชนิดแข็ง (hard gelatin capsule) มักใช้ในประเภทยาปฏิชีวนะ เช่น ยาแก้อักเสบ และ (2) แคปซูลเจลาตินชนิดนิ่ม (soft gelatin capsule) มักใช้บรรจุตัวยาที่ไวต่ออากาศและแสง เช่น น้ำมันตับปลาและวิตามินต่างๆ ซึ่งยารูปแบบนี้จะออกฤทธิ์ได้ไวกว่ายาที่บรรจุแคปซูลชนิดแข็ง

         ทั้งนี้ หากผู้ประกอบการ ผู้ส่งออก หรือผู้ที่เกี่ยวข้องมีข้อสงสัยเกี่ยวกับการใช้งานระบบฯ และการออกระเบียบดังกล่าว สามารถสอบถามได้ที่สถานเอกอัครราชทูตสาธารณรัฐตุรกีประจำประเทศไทย โทรศัพท์ 02 355 5486 หรือ e-mail : This email address is being protected from spambots. You need JavaScript enabled to view it. หรือสอบถามข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่สายด่วนกรมการค้าต่างประเทศ 1385

******************************************

โลโก้เส้นพูดเบาและรวดเร็วไลค์ 1 แชร์ 3ถูกใจ 1 คนแชร์ 1กด  L Ike - แบ่งปัน  เพจเวลา Corehoon-Powerเพื่อติดตามเคล็ดลับข่าวสารเทรนด์และ บทวิเคราะห์ดีๆอัพเดตทุกวันคัดสรรมาเพื่อท่านนักลงทุนโดยเฉพาะ  

 คลิกบริจาคเว็บสนับสนุน

ais 790x90GC 790x90

sme 720x90banpu 720x90 new1 1

ooKbee1

corehoon NEW2

 

 

ข่าวล่าสุด!!