การลงทุนอย่างยั่งยืน และมีความรับผิดชอบต่อสังคมเป็นแนวคิดที่ได้รับความสนใจอย่างกว้างขวางมากว่า 10 ปี และมีแนวโน้มที่เติบโตขึ้นมาอย่างต่อเนื่อง เนื่องด้วยผู้ลงทุนตระหนักถึงความเชื่อมโยงระหว่างผลประกอบการทางการเงินและผลการดำเนินงานที่ให้ความสำคัญกับการสร้างคุณค่าทั้งในมิติของสิ่งแวดล้อม สังคม และบรรษัทภิบาล (ESG) ตามหลักการพัฒนาอย่างยั่งยืน จึงได้ให้ความสำคัญในการเลือกลงทุนโดยคำนึงถึงผลกระทบจากการประกอบธุรกิจที่มีต่อสังคมและสิ่งแวดล้อม จากข้อมูลการลงทุนของ UNPRI ในระหว่างปี ค.ศ. 1995-2017 แสดงให้เห็นว่า มีการนำเงินไปลงทุนที่ให้ความสำคัญต่อ ESG ซึ่งมีการเติบโตขึ้นเป็นอย่างมากจากมูลค่าประมาณ 6 ล้านล้านดอลล่าร์สหรัฐได้เพิ่มสูงถึงกว่า 10 เท่าจนกลายเป็นมูลค่าประมาณ 65 ล้านล้านดอลล่าร์สหรัฐ
การขยายตัวของความต้องการที่จะลงทุนในบริษัทที่มีแนวทางดำเนินธุรกิจอย่างยั่งยืน ทำให้ตลาดหลักทรัพย์หลายแห่งทั่วโลกได้ริเริ่มพัฒนาดัชนีชี้วัดด้านความยั่งยืน หรือที่เรียกกันไม่ว่าจะเป็น Sustainability Index , ESG Index หรือ SRI Index (ในบทความนี้จะขอให้คำว่า Sustainability Index) ซึ่งเป็นดัชนีที่แสดงความเคลื่อนไหวของราคาหุ้นของบริษัทจดทะเบียนที่ผ่านการคัดกรองตามเกณฑ์ที่ประเมินด้านการดำเนินงานอย่างมีความรับผิดชอบต่อสิ่งแวดล้อมและสังคม ควบคู่ไปกับการบริหารงานอย่างมีหลักบรรษัทภิบาล พร้อมกับการสร้างผลประกอบการที่ดีในทางเศรษฐกิจ เพื่อนำไปสู่เป้าหมายที่สำคัญ คือ การพัฒนาอย่างยั่งยืน
ลักษณะโดยทั่วไปของ SustainabilityIndex ในต่างประเทศ จะมีการกำหนดหลักเกณฑ์การคัดเลือกและวิธีการเก็บข้อมูล ESG ของบริษัท เพื่อให้ได้รายชื่อบริษัทที่จะอยู่ใน SustainabilityIndex สรุปได้ดังนี้
- เกณฑ์การคัดเลือก มีการกำหนดใน 2 แนวทางหลัก คือ
- Exclusionary screening/Negative Screening กำหนดว่าจะคัดกรองบริษัทประเภทใดออกจากการพิจารณา โดยจะคัดกรองบริษัทที่ผลิตสินค้าและบริการที่ไม่เหมาะสมออก เช่น บริษัทผลิตสุรา บุหรี่ เครื่องดื่มประเภทแอลกอฮอล์ บริษัทที่เกี่ยวข้องกับธุรกิจคาสิโน บริษัทที่มีความเกี่ยวข้องกับชิ้นส่วนอาวุธนิวเคลียร์หรือเกี่ยวข้องกับการผลิตอาวุธ เป็นต้น
1.2 ESG Rating/Positive Screening กำหนดว่าจะคัดกรองให้บริษัทใดรวมเป็นบริษัทที่เข้าข่ายในการนำไปพิจารณาต่อ ซึ่งจะมีการนำหลักเกณฑ์ ESG มาใช้ประเมินบริษัท
- วิธีการเก็บข้อมูล ESG ของบริษัท ผู้จัดทำดัชนีอาจใช้วิธีการให้บริษัทตอบแบบสอบถาม หรือเก็บข้อมูลของบริษัทที่เปิดเผยไว้จากแหล่งข้อมูลที่น่าเชื่อถือ เช่น รายงานประจำปี รายงานความยั่งยืน เว็บไซต์ของบริษัท เป็นต้น
ตัวอย่าง SustainabilityIndex ในต่างประเทศ
บทความฉบับนี้ขอยกตัวอย่าง SustainabilityIndex ในต่างประเทศ โดยแยกเป็น 2 กลุ่ม คือ
- ผู้จัดทำดัชนีชั้นนำ (Index Provider) จำนวน 3 แห่ง ได้แก่ S&P Dow Jones, MSCI, FTSE Russell และ STOXX
- ตลาดหลักทรัพย์ในต่างประเทศที่มีการจัดทำดัชนีความยั่งยืนเอง รวมทั้งสิ้น 4 แห่ง ได้แก่ Bursa Malaysia Stock Exchange, Singapore Stock Exchange, Korea Stock Exchange และ Hong Kong Stock Exchange
กลุ่มผู้จัดทำดัชนีชั้นนำ (Index Provider)
เปรียบเทียบข้อมูลพื้นฐานของดัชนี
ผู้จัดทำดัชนี | S&P Dow Jones | MSCI | FTSE Russell | STOXX |
ชื่อดัชนี | DJSI | MSCI ESG Index | FTSE4Good Index | STOXX Global ESG Leaders indices |
ปีที่จัดทำดัชนี | ปี 2534 | ปี 2533 | ปี 2543 | ปี 2554 |
ผู้ประเมิน ESG | RobecoSAM | MSCI ESG Research | FTSE Russell | Sustainalytics |
วิธีการประเมิน |
- RobecoSAM เป็นผู้จัดทำการประเมิน ESG โดยให้บริษัทจดทะเบียนที่ผ่านเกณฑ์คัดกรองเบื้องต้นจากมูลค่าตามราคาตลาด ที่ได้รับเชิญให้ตอบแบบประเมินในลักษณะ Corporate Sustainability Assessment (CSA) และการทำ Media Stakeholder Analysis (MSA) - หากบริษัทจดทะเบียนที่ได้รับเชิญ ไม่ตอบแบบประเมิน ทาง RobecoSAM จะประเมินบริษัทจากข้อมูลที่เปิดเผยเป็นการทั่วไป |
- MSCI ESG Research รวบรวมข้อมูลของบริษัทที่อยู่ภายใต้ MSCI All Country World Index และไม่เป็นบริษัทที่ประกอบธุรกิจประเภทเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ การพนัน ยาสูบ พลังงงานนิวเคลียร์ และอาวุธ จากแหล่งต่างๆ เช่น เอกสารเผยแพร่ของบริษัท เอกสารของหน่วยงานรัฐ งานวิจัยจากสถาบัน การศึกษาทั้งที่มีการตีพิมพ์และเผยแพร่ในฐานข้อมูลออนไลน์ ข่าวจากสื่อต่างประเทศและสื่อท้องถิ่น รายงานและบทสัมภาษณ์จากกลุ่ม NGO - บริษัทให้ความเห็นรายงานสรุปผลจากการรวบรวมข้อมูลในเบื้องต้นและสามารถเพิ่มเติมเอกสารเพื่อประกอบการประเมินได้ในระยะเวลาตามที่ MSCI ESG Research กำหนด |
FTSE Russell รวบรวมข้อมูลผลการดำเนินงานด้าน ESG ของบริษัทที่อยู่ใน FTSE Index และไม่เป็นบริษัทที่ผลิตสินค้าประเภทยาสูบ อาวุธหรือส่วนประกอบอาวุธ และถ่านหิน จากรายงานประจำปี เว็บไซต์ของบริษัท และข้อมูลที่มีการเผยแพร่อื่นๆ |
Sustainalytics กำหนด ESG Rating ของบริษัทที่อยู่ภายใต้ STOXX Global 1800 Index และตัดบริษัทในกลุ่มต้องห้ามออกจากการประเมิน โดยผ่านกระบวนการวิจัยและวิเคราะห์จากข้อมูลของบริษัท รายงาน สื่อ และงานศึกษาต่างๆ |
เกณฑ์ประเมิน ESG |
ตัวชี้วัดทั่วสำหรับใช้ประเมินทุกอุตสาหกรรม และตัวชี้วัดเฉพาะกลุ่มอุตสาหกรรมสำหรับใช้ประเมินในแต่ละอุตสาหกรรม เช่น - สิ่งแวดล้อม: นโยบายด้านสิ่งแวดล้อมและระบบบริหารจัดการ การรายงานด้านสิ่งแวดล้อม ความหลากหลายทางชีวภาพ การใช้ทรัพยากรอย่างมีประสิทธิภาพ - สังคม: การรายงานผลกระทบทางสังคม การพัฒนาแรงงาน แนวทางการจูงใจและรักษาบุคคลที่มีความสามารถ การเป็นพลเมืองที่ดีขององค์กรและนโยบายด้านการกุศล ตัวชี้วัดการปฏิบัติด้านแรงงาน การเชื่อมโยงผู้มีส่วนได้เสีย มาตรฐานสำหรับคู่ค้า - เศรษฐกิจ: หลักบรรษัทภิบาล จรรยาบรรณทางธุรกิจ การต่อต้านการทุจริต การจัดการความเสี่ยงและภาวะวิกฤติ นวัตกรรม |
- การบริหารจัดการด้านความเสี่ยงด้านสิ่งแวดล้อม สังคม และบรรษัทภิบาลของบริษัทจดทะเบียน เพื่อระบุความเสี่ยงที่สำคัญในด้าน ESG ซึ่งบริษัทกำลังเผชิญ - การประเมินผลกระทบในเชิงลบของการดำเนินธุรกิจที่มีต่อสังคมและสิ่งแวดล้อม โดยพิจารณาจากความเกี่ยวข้องของบริษัทต่อประเด็นที่เป็นวิพากษ์วิจารณ์ หรือไม่เป็นไปตามมาตรฐานของ UN Global Compact, ILO Core Conventions หรือข้อบังคับขององค์การระหว่างประเทศอื่นๆ ซึ่งหัวข้อหลักในการประเมินครอบคลุมตัวชี้วัด 5 ประเด็น คือ สิ่งแวดล้อม ลูกค้า สิทธิมนุษยชนและชุมชน สิทธิของผู้ใช้แรงงานและห่วงโซ่อุปทาน บรรษัทภิบาล - การพิจารณาประเภทของธุรกิจของบริษัท เช่น ผู้ผลิต ผู้ลงทุน ให้การสนับสนุนหรือได้รับรายได้จากธุรกิจประเภทนั้นๆ ในอุตสาหกรรมที่ไม่เป็นไปตามหลักศาสนาและศีลธรรม หรือมีความเกี่ยวข้องกับประเทศที่ถูกมาตรการคว่ำบาตรจากนานาชาติ เป็นต้น |
ตัวชี้วัดทั่วไป และตัวชี้วัดเฉพาะตามประเภทกลุ่มอุตสาหกรรม เช่น - สิ่งแวดล้อม: การเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศ การใช้น้ำ ความหลากหลายทางชีวภาพ การจัดการมลพิษและการใช้ทรัพยากร - สังคม: ความรับผิดชอบต่อลูกค้า สิทธิมนุษยชนและชุมชน มาตรฐานด้านแรงงาน สุขภาวะและความปลอดภัย - บรรษัทภิบาล: การต่อต้านการทุจริต ความโปร่งใสเกี่ยวกับภาษี การบริหารความเสี่ยง หลักบรรษัทภิบาล |
ตัวชี้วัดด้าน ESG เช่น -สิ่งแวดล้อม: นโยบายด้านสิ่งแวดล้อม ระบบการจัดการสิ่งแวดล้อม การลดใช้ทรัพยากรและพลังงาน มาตรการดำเนินการเพื่อลดผลกระทบต่อการไม่ปฏิบัติตามมาตรฐานด้านสิ่งแวดล้อม นโยบายการจัดซื้อสีเขียว ความยั่งยืนของผลิตภัณฑ์และบริการ -สังคม: นโยบายการไม่เลือกปฏิบัติ การคำนึงถึงสิทธิมนุษยชน การเพิ่มความหลากหลายในด้านแรงงาน การดูแล ฝึกอบรม และสุขภาวะความปลอดภัยของพนักงาน ห่วงโซ่อุปทาน -บรรษัทภิบาล: นโยบายการต่อต้านการคอร์รัปชั่นและติดสินบน ความโปร่งใสทางภาษี จริยธรรมทางธุรกิจ โครงสร้างและองค์ประกอบของคณะกรรมการ คุณภาพการรายงาน CSR การติดตามดูแลประเด็น ESG นโยบายในการจัดการข้อโต้แย้ง |
ตัวอย่างดัชนี |
DJSI World, DJSI North America, DJSI Europe, DJSI Asia Pacific, DJSI Emerging Markets, DJSI Korea, DJSI Australia, DJSI Chile |
MSCI Global Sustainability Indexes, MSCI World ESG Index, MSCI Emerging ESG Index | FTSE4Good Global Index, FTSE4Good USA Index, FTSE4Good Europe Index, FTSE4Good UK Index, FTSE4Good Japan Index, FTSE4Good Emerging Index, FTSE4Good Emerging Latin America Index, FTSE4Good ASEAN 5 Index, FTSE4Good Australia 30 | STOXX Euro ESG Leader50 Index, Euro STOXX Sustainability Index, STOXX Asia/Pacific ESG Leader 50 Index, STOXX North America ESG Leader 50 Index |
ตลาดหลักทรัพย์ในต่างประเทศที่มีการจัดทำดัชนีความยั่งยืนเอง
เปรียบเทียบข้อมูลพื้นฐานของดัชนี
ตลาดหลักทรัพย์ | Bursa Malaysia Stock Exchange |
Korea Stock Exchange | Hong Kong Stock Exchamge |
Singapore Stock Exchange | |
ชื่อดัชนี | FTSE4Good Bursa Malaysia Index | KRX ESG Leaders 150 Index | Hang Seng Corporate Sustainability Index | SGX Sustainability Index SGX Sustainability Enhanced Index |
SGX Sustainability Leader Index SGX Sustainability Leaders Enhanced Index |
ปีที่จัดทำ | ปี 2557 | ปี 2558 | ปี 2553 | ปี 2559 | |
ผู้ประเมิน ESG | FTSE Russell เป็นผู้จัดทำดัชนีโดยมีเครื่องมือที่เรียกว่า ESG Rating ใช้สำหรับประเมินข้อมูลด้าน ESG ของบริษัท | CGS ซึ่งเป็นหน่วยงานวิจัยเกี่ยวกับ CG และ CSR ซึ่งจัดตั้งโดย Korea Exchange, Korea Financial Investment Association, Korea Listed Company Association และ KOSDAQ Listed Company Association ปัจจุบันให้บริการด้านการประเมิน ESG ให้คำปรึกษาด้านการลงทุนอย่างมีความรับผิดชอบ และการจัดทำรายงานความยั่งยืน | Hong Kong Quality Assurance Agency (HKQAA) ซึ่งเป็นหน่วยงานที่ไม่แสวงหากำไร จัดตั้งโดยรัฐบาลเพื่อส่งเสริมความสามารถในการแข่งขันของอุตสาหกรรมและการค้า ตลอดจนมีหน้าที่ในการประเมินผลด้านต่างๆ | Sustainalytics เป็นองค์กรวิจัยอิสระซึ่งเชี่ยวชาญในการวิเคราะห์ประสิทธิภาพในด้านสิ่งแวดล้อม สังคม และบรรษัทภิบาล (ESG) ขององค์กรธุรกิจ | |
วิธีการประเมิน | FTSE Russell รวบรวมข้อมูลของบริษัทที่เปิดเผยเป็นการทั่วไป เช่น เว็บไซต์ รายงานประจำปีหรือรายงานความยั่งยืน เป็นต้น |
- CGS รวบรวมข้อมูลที่เผยแพร่ของบริษัทและข้อมูลในฐานข้อมูลเพื่อนำมาใช้ประเมินในเบื้องต้น - แจ้งผลประเมินและให้บริษัท ส่งข้อมูลประกอบการประเมินเพิ่มเติมกลับมายัง CGS |
- HKQAA ทำการประเมินโดยใช้ข้อมูลที่เปิดเผยผ่านทาง เว็บไซต์ของบริษัท รายงานประจำปีหรือรายงานความยั่งยืน และข่าวสารที่เกี่ยวข้องตามสื่อต่างๆ - ส่งข้อมูลที่ประเมินแล้วให้บริษัทรับทราบ โดยบริษัทสามารถส่งข้อมูลเพิ่มเติม และจัดส่งกลับมาให้ HKQAA ได้ |
Sustainalytics เป็นผู้พิจารณากำหนดESG Rating บริษัท โดยผ่านกระบวนการ วิจัยและวิเคราะห์จากข้อมูลของบริษัท รายงาน สื่อ และงานศึกษาต่างๆ |
|
เกณฑ์ประเมิน ESG |
- สิ่งแวดล้อม: การเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศ การใช้น้ำ ความหลากหลายทางชีวภาพ การจัดการมลพิษและการใช้ทรัพยากร - สังคม: ความรับผิดชอบต่อลูกค้า สิทธิมนุษยชนและชุมชน มาตรฐานด้านแรงงาน สุขภาวะและความปลอดภัย - บรรษัทภิบาล: การต่อต้านการทุจริต ความโปร่งใสเกี่ยวกับภาษี การบริหารความเสี่ยง หลักบรรษัทภิบาล |
- สิ่งแวดล้อม: กลยุทธ์ด้านสิ่งแวดล้อม หน่วยงานผู้รับผิดชอบ หลักปฏิบัติด้านการจัดการสิ่งแวดล้อม ผลลัพธ์ที่ได้ การสื่อสารกับผู้มีส่วนได้เสีย - สังคม: พนักงาน การประกอบกิจการด้วยความเป็นธรรม ผู้บริโภค ชุมชน - บรรษัทภิบาล: สิทธิของผู้ถือหุ้น คณะกรรมการบริษัท (การเปิดเผยข้อมูล ระบบตรวจสอบ การปันผล |
แยกเป็นคำถามทั่วไปและเฉพาะอุตสาหกรรม ครอบคลุมในหัวข้อ – สิ่งแวดล้อม - สังคม: สิทธิมนุษยชน การปฏิบัติด้านแรงงาน การพัฒนาชุมชน - บรรษัทภิบาล: การประกอบกิจการด้วยความเป็นธรรม ผู้บริโภค |
ตัวชี้วัดด้าน ESG เช่น -สิ่งแวดล้อม: นโยบายด้านสิ่งแวดล้อม ระบบการจัดการสิ่งแวดล้อม การลดใช้ทรัพยากรและพลังงาน มาตรการดำเนินการเพื่อลดผลกระทบต่อการไม่ปฏิบัติตามมาตรฐานด้านสิ่งแวดล้อม นโยบายการจัดซื้อสีเขียว ความยั่งยืนของผลิตภัณฑ์และบริการ -สังคม: นโยบายการไม่เลือกปฏิบัติ การคำนึงถึงสิทธิมนุษยชน การเพิ่มความหลากหลายในด้านแรงงาน การดูแล ฝึกอบรม และสุขภาวะความปลอดภัยของพนักงาน ห่วงโซ่อุปทาน -บรรษัทภิบาล: นโยบายการต่อต้านการคอร์รัปชั่นและติดสินบน ความโปร่งใสทางภาษี จริยธรรมทางธุรกิจ โครงสร้างและองค์ประกอบของคณะกรรมการ คุณภาพการรายงาน CSR การติดตามดูแลประเด็น ESG นโยบายในการจัดการข้อโต้แย้ง |
|
การคัดเลือกในขั้น Eligibility screening | หุ้นที่มีมูลค่าหลักทรัพย์ตามราคาตลาดใน 200 ลำดับแรก และมีสภาพคล่อง |
- มีมูลค่าหลักทรัพย์ตามราคาตลาดเฉลี่ยรายวันในช่วง 3 เดือน อยู่ใน 50% แรกของหลักทรัพย์ที่ซื้อขายตามปกติ - มี Traded Value เฉลี่ยรายวันในช่วง 3 เดือน อยู่ใน 70% แรกของหลักทรัพย์ที่ซื้อขายตามปกติ - มี Free-float Ratio มากกว่า 10% |
- หุ้นที่มีมูลค่าหลักทรัพย์ตามราคาตลาดโดยเฉลี่ยในรอบ 12 เดือนสูงสุด 150 ลำดับแรก - มี Turnover velocity ขั้นต่ำที่ 0.1% อย่างน้อย 10 เดือนจาก 12 เดือน |
- มี Free-float Ratio มากกว่า 15% (ถ้าเป็นหุ้นใหม่ ต้องมากกว่า 20%) - มี Turnover velocity ขั้นต่ำที่ 0.04% (ถ้าเป็นหุ้นใหม่ ขั้นต่ำที่ 0.06%) - มีมูลค่าหลักทรัพย์ตามราคาตลาด 60 ล้านเหรียญดอลล่าร์สิงคโปร์ (ถ้าเป็นหุ้นใหม่ ต้อง 100 ล้านเหรียญดอลล่าร์สิงคโปร์) |
|
การคัดเลือกหุ้น เข้าสู่ดัชนีในดัชนี |
หุ้นที่ผ่านเกณฑ์การประเมินความยั่งยืนจำนวน 42 หุ้น |
หุ้นของบริษัทจดทะเบียนที่ผ่าน 50% ในแต่ละมิติ จำนวน 150 ลำดับแรก |
หุ้นของบริษัทจดทะเบียนที่ได้คะแนนความยั่งยืนสูงสุด 30 ลำดับแรก | หุ้นของบริษัทจดทะเบียนที่ผ่านเกณฑ์ประเมินและผ่านเกณฑ์ของการทำรายงานความยั่งยืน ซึ่งมีเท่ากับ 84 หุ้น | หุ้นของบริษัทจดทะเบียนที่ได้คะแนนความยั่งยืนอยู่ใน 50 percentile ของ Asia-Pacific Peer Group และอยู่ใน 25 percentile ของ Global Peer Group ซึ่งมีเท่ากับ 24 หุ้น |
วรางคณา ภัทรเสน
ฝ่ายพัฒนาธุรกิจเพื่อความยั่งยืน ตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย